วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

กิจกรรมการรับน้องใหม่

     หากเอ่ยถึงการศึกษาต่อระดับสถาบันอุดมศึกษา นักศึกษาที่เข้ามาเรียนใหม่ หรือที่เรียกว่า เฟรชชี่ก็จะมีการแต่งกายที่ต่างจากรุ่นพี่ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของนักศึกษาใหม่ และที่พลาดไม่ได้คือกิจกรรมที่ถือได้ว่าเป็นประเพณีสำหรับนักศึกษาใหม่ ก็คือ กิจกรรมการรับน้องใหม่ นั่นเอง
     การที่นักศึกษาใหม่เข้ามาเรียนในสถาบันแห่งใหม่ จึงจำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ กิจกรรมรับน้องถือเป็นกิจกรรมแรกที่ได้ทำ เพราะกิจกรรมนี้ทำให้เราได้รู้จักเพื่อนใหม่ รู้จักการปรับตัว รู้จักการวางตัว รู้จักการอยู่ร่วมกัน และรู้จักการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย
     ประเพณีการรับน้องเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง กิจกรรมนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตนักศึกษาที่จะก้าวเข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัย พออยู่ ๆ ไป ก็จะรู้เองว่าทุกกิจกรรมนั้นจะอาศัยความสมัครใจมากกว่าการบังคับ จึงไม่ถือเป็นกฎตายตัวที่ทุกคนต้องเข้าร่วม ซึ่งเป็นจุดสำคัญของชีวิตที่เราจะได้นำสิ่งต่าง ๆ ที่ได้จากมหาวิทยาลัยไปประกอบอาชีพ แลสามารถเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคมในอนาคต กิจกรรมการรับน้องมีมากมายหลากหลาย เช่น การสันทนาการ การร้องเพลง การเต้นตามจังหวะกลอง การเล่นเกมส์ การบูม และการร้องเพลงคณะ เป็นต้น แล้วแต่รุ่นพี่จะคิดและปฏิบัติกัน ซึ่งทุกกิจกรรมล้วนมีจุดประสงค์ เพื่อก่อให้เกิดความรัก ความสามัคคีระหว่างเพื่อนและรุ่นพี่ มหาวิทยาลัยมันมีเรื่องที่ต้องพบเจออีกมากมาย การอบรม การสั่งสอน การลงโทษ ทำให้เราเข้มแข็งและรู้จักวิธีการเข้ามาใช้ชีวิตในที่แห่งนี้ จำไว้ว่า กิจกรรมการรับน้องเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ให้ประสบการณ์กับเรา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเรียน เพราะมันในอนาคตกับเรา
     การรับน้องจึงเป็นเหมือนประสบการณ์หนึ่งซึ่งผ่านเข้ามาในชีวิตมหาลัย ที่วันหนึ่งข้างหน้าเมื่อเราผ่านจุดหนึ่งของชีวิตไป อาจจะเป็นความทรงจำดี ๆ ที่ทำให้เราหวนกลับมาอมยิ้มได้ไม่ว่านานแค่ไหน อย่าลืมว่า เรื่องของความทรงจำนั้นหาซื้อกันไม่ได้ ต่อให้ใครมาเล่าให้เราฟังยังไงก็เทียบไม่ได้กับการที่เราได้ผ่านเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยตัวเอง สิ่งที่ดีก็เก็บไว้ อันไหนไม่ดีก็เปิดรับพร้อมแก้ไข ยังไงก็ไม่เสียหาย ถ้าตราบใดที่เรารู้จักแยกแยะ เรื่องดี ๆ มีให้เราเลือกเก็บเกี่ยวไว้มากมาย อยู่ที่ใครจะกอบโกยและค้นหาสิ่งที่ดีสำหรับตัวเองได้มากกว่ากัน
A’Pinya

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น