วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

พระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม

     ก่อนอื่นขอกล่าวถึงประวัติของพระปฐมเจดีย์กันก่อนแล้วกัน

     พระปฐมเจดีย์ (Phra Pathom Chedi) วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เป็นที่ประดิษฐานองค์พระปฐมเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดของไทย เป็นเจดีย์ที่เก่าแก่มากที่สุด และได้ใช้ตราพระปฐมเจดีย์เป็นตราประจำจังหวัด พระปฐมเจดีย์ที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้เป็นองค์ที่สร้างขึ้น ในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ. 2396 โปรดเกล้าให้ครอบองค์เดิมที่ชำรุดหักพังลง การก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย ในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2413 มีความสูง 3 เส้น 1 คืบ 10 นิ้ว ฐานวัดโดยรอบได้ 5 เส้น 17 วา 3 ศอก ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้ทรงบูรณะวัดพระปฐมเจดีย์ให้สง่างามยิ่งขึ้น และถือว่าวัดพระปฐมเจดีย์เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 6
     สำหรับพระปฐมเจดีย์เป็นพระเจดีย์ใหญ่ มีลักษณะเจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำ (ปากผาย) โครงสร้างทำจากไม้ซุง รัดด้วยโซ่ขนาดใหญ่ ก่ออิฐ ฉาบปูน และปูประดับด้วยกระเบื้องสีเหลือง-แสด ชั้นล่างประกอบด้วยวิหารสี่ทิศ พร้อมด้วยกำแพงแก้วสองชั้น
     ภายในองค์พระเจดีย์ยังเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่เคารพสักการบูชาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก ทางวัดจึงกำหนดให้มีงานเทศกาลนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ ในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง วันแรม 5 ค่ำ เดือน 12 รวม 9 วัน 9 คืน เป็นประจำทุกปี


     เมื่อมาถึงพระปฐมเจดีย์แล้ว ก็ไม่พลาดที่จะไปกราบนมัสการ พระร่วงโรจนฤทธิ์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในบริเวณเดียวกัน รวมถึง ศาลเจ้าพ่อปราสาททอง และพระศิลาขาว ด้วย และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต เมื่อมาพระปฐมเจดีย์ ก็คือ การเดินรอบพระอารามชั้นนอก หรือชั้นในก็ได้ให้ครบ 3 รอบ เพื่ออธิฐานจิตขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สมปรารถนาดั่งสิ่งที่หวังไว้


     นอกจากนี้ ในตอนเย็น ๆ บริเวณอีกด้านขององค์พระปฐมเจดีย์ ก็จะมีตลาดนัด มีของกินให้เราเลือกซื้อ ทั้งคาวหวาน อาทิ ผัดไท หอยทอด ก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่ง รวมถึงของหวานอย่างบัวลอยแต้จิ๋ว ขนมครกชาววัง และไอศกรีมลอยฟ้าก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บรูปมาฝาก เพราะมัวแต่กิน กิน กิน

     ขอบอกว่า...มาที่นี่ที่เดียว อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งท้อง และอิ่มทั้งบรรยากาศ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น